วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

เสริมดวงสุขภาพ 12 ราศี




ราศีเมษ (21 มีนาคม – 19 เมษายน)
อาการปวดศีรษะและโรคไมเกรน เป็นโรคที่ชาวเมษควรระวัง เพราะตามการเดินทางของดวงดาวจะมีอิทธิพลปกคลุมร่างกายส่วนศีรษะทั้งหมด ยิ่งประกอบกับความที่เป็นคนคิดมาก เครียดจัด ไม่ยอมทานอาหารตรงตามเวลา อาการปวดหัวจึงมักจะมาเยี่ยมเยียนอยู่เป็นประจำ โรคหวัดและไซนัสอักเสบ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของชาวเมษ จึงควรดื่มน้ำหัวบีต แครอท และชาสมุนไพรคาโมมายล์เป็นประจำ
ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20 พฤษภาคม)
ด้วยความที่เป็นคนทานเก่ง ชอบกินจุบจิบตลอดเวลาทำให้ปัญหาใหญ่เป็นเรื่องรูปร่าง ซึ่งพอคิดจะลดก็มักตบะแตก ไม่เคยสำเร็จสักที เพราะฉะนั้นจึงควรนำความมุ่งมั่น ความดันทุรังที่เป็นนิสัยพื้นฐานประจำตัว มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์กับการลดน้ำหนัก ซึ่งถ้าทำได้เชื่อว่าคราวหน้าส่องกระจก คุณอาจจะตะลึงคิดว่านางฟ้าแปลงกายมาอยู่ตรงหน้า ปัญหาเรื่องคอ เป็นอีกปัญหาสำคัญของชาวพฤษภ ยิ่งเมื่ออยู่ในที่เย็นหรือเกิดอาการเครียดจัด จะปวดเมื่อยตามคอได้ง่าย ซึ่งวิธีแก้คือใช้มือนวดเบาๆใต้ติ่งหู ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ ก็เป็นอีกโรคที่มักมาก่อกวนชาวราศีนี้ ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานไม่ปกติ ควรทานปลาหรืออาหารที่มีไอโอดีนเยอะๆ
ราศีเมถุน (21พฤษภาคม – 22 มิถุนายน)
ชาวราศีเมถุนมีจุดอ่อนอยู่ที่หลังและไหล่ ทำให้มักเกิดอาการตึงเส้นเอ็นบริเวณข้อมือบ่อยๆ ยิ่งถ้าต้องนั่งทำงานหรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ เพราะฉะนั้นจึงควรหาอุปกรณ์เสริม เช่น หาเบาะนิ่มๆ มารองข้อมือเวลาใช้คอมพิวเตอร์ หรือเก้าอี้ที่นั่งสบายมีพนักตรงปรับระดับอย่างพอเหมาะกับโต๊ะทำงาน นอนไม่หลับถือเป็นโรคที่รุนแรงสำหรับชาวราศีนี้ เพราะไม่ใช่แค่หลับๆตื่นๆ แต่จะถึงขั้นตาค้าง สมองทำงานตลอดเวลา จนร่างกายทรุดโทรมอ่อนเพลีย วิธีแก้คือลด ละ เลิก เครื่องดื่มกระตุ้นร่างกายทั้งหลาย โรคหลอดลมอักเสบ หวัดลงปอด หืด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพองและโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอากาศบริสุทธิ์และการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยสร้างเกราะป้องกันได้
ราศีกรกฎ (23 มิถุนายน – 22 กรกฎาคม)
อาการต่างๆ ก่อนมีประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นปวดท้อง อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย เป็นโรคที่มักเกิดกับชาวกรกฎ ด้วยสาเหตุที่ดาวเคราะห์ประจำราศีเป็นดวงจันทร์ และร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงส่งผลให้หน้าอก เต้านมและต่อมน้ำนมมักเกิดอาการผิดปกติ จึงควรทานวิตามินและอาหารเสริมเป็นประจำ อีกทั้งโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบและโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร จึงควรใส่ใจในพฤติกรรมการทานให้มาก
ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม – 22 สิงหาคม)
ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อหลังและส่วนต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจากนิสัยดื้อรั้น ชอบทำทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่ยอมยืดหยุ่น ทำให้ร่างกายเมื่อยล้าและเคล็ดขัดยอกอยู่บ่อยๆ ชาวราศีสิงห์มักมีน้ำหนักตัวมากเกินพอดี เพราะพอเครียดก็มักระบายออกกับมันฝรั่ง ไอศกรีม หรือขนมหวานทั้งหลาย ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือดตีบ ซึ่งหากยังเลิกการทานเพื่อระบายความเครียดไม่ได้ควรเปลี่ยนมาทานผัก ผลไม้ หรือมันฝรั่งทอดปราศจากเกลือและไขมันต่ำแทน
ราศีกันย์ (23 สิงหาคม – 20 กันยายน)
ด้วยความที่เป็นคนร่าเริง ชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ทำให้โรคต่างๆ ไม่ค่อยมารุมเร้ากวนใจคุณมากนัก แต่สำหรับโรคนอนไม่หลับถือเป็นกรณียกเว้น คุณมักจะตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับอยู่บ่อยๆ ลองอาบน้ำอุ่นจัดก่อนนอน หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหลังสี่โมงเย็น หรือดื่มนมและน้ำผึ้งอุ่นๆ ก่อนนอน
ราศีตุลย์ (21 กันยายน – 22 ตุลาคม)
จากนิสัยที่คุณเป็นคนชอบทานของหวานและอาหารมันๆ เป็นประจำ แต่ไม่ยอมออกกำลังกาย ส่งผลให้ไตทำงานหนักมากกว่าปกติ จึงควรดูแลไตเป็นพิเศษ โดยดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว หลีกเลี่ยงอาหารพวกเนื้อ ปลา เป็ด ไก่ แล้วแทนที่ด้วยผักผลไม้สีเขียวและสีเหลือง รับรองถ้าทำตามไตคุณจะยิ้มระรื่นเลยทีเดียว เนื่องจากผิวหนัง และไตของชาวราศีนี้อยู่ใต้อิทธิพลของดาวศุกร์ จึงมักส่งผลให้ไขมันและส่วนเกินที่ถูกขับออกมาจากไต ถูกปลดปล่อยทางร่างกาย ผิวหนังเป็นเหงื่อและสิว การดูแลใบหน้าให้สะอาดจึงเป็นสิ่งที่ชาวตุลย์ควรใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ
ราศีพิจิก (23 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน)
ชาวราศีพิจิกมีนิสัยชอบกลั้นการขับถ่ายๆ ไว้นานๆ แถมยังชอบอาหารที่มีไขมันสูง แบบที่เห็นเป็นไม่ได้ต้องวิ่งเข้าหาทันที ทำให้โรคท้องผูกมักมาเยือนบ่อยๆ จนบางครั้งอาจเรื้อรั้งไปถึงริดสีดวงทวาร ทางที่ดีควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน และทำระบบขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร
ราศีธนู (23 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม)
ด้วยความที่เป็นคนทุ่มเทเต็มที่กับเรื่ื่องกิน เรื่องดื่มเป็นพิเศษ ทำให้ชาวราศีนี้มีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบ โรคตับแข็งและโรคพิษสุราเรื้อรังมากกว่าชาวราศีอื่น เพราะฉะนั้นเลิกดื่มซะเถอะ ราศีธนูหมายถึงร่างกายส่วนตับและถุงน้ำดี ทำให้ชาวราศีธนูมีโอกาสเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีสูง ซึ่งโรคนี้มักทำให้คุณเกิดอาการปวดท้องประมาณ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเสร็จ ถ้าอยากให้อาการดีขึ้นลองทานอาหารประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือวิตามินเสริมที่ช่วยให้เกิดการดูดย่อยไขมันได้ดี
ราศีมังกร (21 ธันวาคม – 19 มกราคม)
ลักษณะและบุคลิกที่ดูก้าวร้าวของคนราศีนี้ มักส่งผลมาจากลักษณะทางกายภาพของส่วนกระดูกและข้อต่อที่ไม่ค่อยมีความ ยืดหยุ่น ทำให้เมื่อยิ่งแก่ตัว หรือเริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของชีวิต จะเป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก ทางที่ดีควรบริโภคแคลเซียม วิตามินดีและออกกำลังกายเป็นประจำ แต่จะให้เจ๋งกว่าควรรีบทำก่อนอายุ 35 ไม่งั้นจะสายเกินแก้ โรคข้ออักเสบเป็นโรคที่ก่อให้เกิดความอ่อนเพลีย ทรมานและเจ็บปวดมากที่สุดโรคหนึ่งสำหรับชาวราศีมังกร เพราะไม่สามารถรักษาได้โดยตรง ทำได้เพียงให้ยาลดอักเสบและบวมตามข้อเท่านั้น ดังนั้นการเลือกอาหารบริโภค ฝึกโยคะ ทำสมาธิ สร้างจินตนาการจะเป็นตัวช่วยในการบรรเทาปวดอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมทีเดียว
ราศีกุมภ์ (20 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์)
โรค ข้อเท้าบวม ข้อเท้าเคล็ด หลอดเลือด (ดำ) ขอด จากทิศทางของดวงดาวทำให้ชาวราศีกุมภ์มักมีอาการบวมที่ข้อเท้า หรือบริเวณต่ำกว่าหัวเข่าลงมา ดังนั้นจึงควรนวดขาทุกวัน ตั้งแต่นิ้วเท้าจนถึงต้นขาด้วยน้ำมันวิตามินอี หรือน้ำมันหอมระเหยมะนาวผสมกับลาเวนเดอร์ เพื่อบริหารให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
ราศีมีน (19 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม)
ชาวราศีมีนมักมีระบบต่อมน้ำเหลืองทำหน้าที่หลักในระบบภูมิคุ้มกันของ ร่างกาย ทำให้มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อมน้ำเหลืองได้มาก แต่ทางแก้ไม่ยาก แค่ดื่มน้ำสมุนไพร ชาและเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย จากการที่โหมงานหนัก ชอบคิดมากในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำให้ชาวราศีมีนจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเวียนศีรษะอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาวะเลือดจางและขาดธาตุเหล็ก แต่เพียงแค่รับประทานอาหารทดแทนธาตุเหล็ก เสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงก็จะบำบัดได้มาก

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites